1. ไม้โอ๊ค
ราคา : ฿
รูปลักษณ์ภายนอก : ไม้โอ๊คแดงจะมีโทนสีออกไปทางส้มๆ ที่ดูอบอุ่น (ภาพตัวอย่าง) ส่วนไม้โอ๊คขาวจะมีโทนสีที่ดูซีดเย็นกว่า
ค่าความคงทน (Janka Scale) : ไม้โอ๊คสีแดงมีค่าความคงทนอยู่ที่ 1290 ในขณะที่ไม้โอ๊คขาวมีค่าความคงทนอยู่ที่ 1360
สิ่งที่ควรรู้ : เนื่องจากไม้โอ๊คมีลักษณะเป็นไม้แบบเปิดผิวโชว์ลวดลาย ทำให้คราบสกปรกสามารถติดได้ง่ายและเท่ากันบนพื้นไม้โอ๊ค
2. ไม้เมเปิ้ล
ราคา : ฿
ลักษณะภายนอก : ไม้เมเปิ้ลนั้นมีพื้นผิวที่ค่อนข้างบาง และมักจะมีโทนสีออกไปทางสีเหลือง และจะมีโทนสีเข้มขึ้นเมื่อผ่านช่วงเวลาการใช้งาน
ค่าความคงทน (Janka Scale) : ไม้เมเปิ้ลมีค่าความคงทน 1450 นิยมใช้ในลานโบว์ลิ่ง
สิ่งที่ควรรู้ : ไม้เมเปิ้ลมีลักษณะพื้นผิวแบบปิดเนื้อผิว จึงทำให้ไม่ดูดซับความชื้นและไม่เปื้อนง่าย ใช้ได้กับห้องครัว ห้องนอน หรือห้องนั่งเล่น
3. ไม้ฮิคกอรี่
ราคา : ฿฿
ลักษณะภายนอก : ไม้ฮิคกอรี่มีสีสันของลวดลายไม้ที่ค่อนข้างจะหลากหลาย ให้อารมณ์แบบบ้านรัสติคได้ดีทีเดียว
ค่าความคงทน (Janka Scale) : ไม้ฮิคกอรี่มีค่าความคงทน 1820 เหมาะที่จะใช้ในห้องที่มีการใช้งานหนักๆ อย่างเช่นห้องครัวหรือห้องรับแขก
สิ่งที่ควรรู้ : เป็นไม้ที่ไม่ดูดซับความชื้นมากนัก เหมาะสำหรับใช้กับบ้านที่อยู่ใกล้ริมทะเลเป็นอย่างยิ่ง
4. ไม้เชอร์รี่
ราคา : ฿฿฿
ลักษณะภายนอก : ไม้เมเปิ้ลมีสีสันลวดลายเนื้อไม้ที่สวยงาม และมีโทนสีที่หลากหลาย จะมีความเข้มและแดงขึ้นเมื่อผ่านระยะเวลาการใช้งาน
ค่าความคงทน (Janka Scale) : ไม้เชอร์รี่มีค่าความคงทนเพียง 950 จึงเหมาะกับห้องที่ไม่เน้นการเหยียบพื้นมากนัก อย่างเช่นห้องนอน และหากเป็นไปได้ก็ควรปูพรมทับด้วย
สิ่งที่ควรรู้ : ไม้เชอร์รี่มีความไวต่อแสงแดดมาก และพื้นผิวจะถูกเปลี่ยนสภาพอย่างรวดเร็วหากต้องแสงแดดตลอดเวลา
5. ไม้วอลนัท
ราคา : ฿฿฿
ลักษณะภายนอก : ไม้วอลนัทมีโทนสีที่เข้มขรึม และมีการจัดเรียงที่สวยงาม ส่วนมากจากมีลวดลายพื้นผิวเป็นแพทเทิร์นเส้นตรง
ค่าความคงทน (Janka Scale) : ไม้วอลนัทมีค่าความคงทนอยู่ที่ 1010
สิ่งที่ควรรู้ : พื้นไม้วอลนัทมักจะพบได้ในบ้านเก่าๆ
ข้อมูล https://bit.ly/2vFnQXP
หน้าที่เข้าชม | 30,920 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 22,071 ครั้ง |
เปิดร้าน | 24 พ.ย. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 16 ก.ย. 2568 |